เรียงความ มัสยิด 300 ปี ร้อยรักสามวัฒนธรรมสามเชื้อชาติ
 |
| มัสยิด 300 ปี |
ที่แห่งนี้เป็นที่ที่คนนับถือศาสนาอิสลามถือว่าเป็นสถานที่ที่สำคัญสำหรับการทำอามาลอีบาดัตเป็นที่ที่น่าเที่ยว น่าไปเยี่ยมชม และเป็นสถานที่เก่าแก่ที่ยังคงสภาพสวยงามอยู่เหมือนเดิม และเชื่อว่าคน จังหวัดชายแดนใต้ส่วนมาก น่าจะเคยสัมผัสสถานที่แห่งนี้มาแล้วเพราะสถานที่นี้อยู่ไม่ไกลอยู่ใน จังหวัดชายแดนใต้นี่เอง สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ จังหวัดนราธิวาส หมู่บ้านตือโละมาเนาะ เป็นมัสยิดที่เก่าแก่สร้างมานานกว่า 300 ปี มาแล้วและเป็นมัสยิดที่สร้างด้วยไม้เกือบทั้งหลังมีความงดงามในอีกแบบหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านจะเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า มัสยิด 300 ปี หรือ มัสยิดตือโละมาเนาะ
คนส่วนใหญ่รู้จักมัสยิด 300 ปี หรือ มัสยิดตือโละมาเนาะ นี้อยู่แล้ว ซึ่งกระผมเองก็รู้จักแต่ไม่มีโอกาสไปเยี่ยมชม กระผมสนใจในสถานที่แห่งนี้มากจึงได้ศึกษาจากอินเตอร์เน็ตบ่อยๆ มัสยิด 300 ปี แห่งนี้ ในความเป็นมัสยิดเก่าแก่ที่สร้างด้วยไม้มีอายุนับร้อยปี และให้ความสนใจกับวิธีการก่อสร้างแบบโบราณ ซึ่งใช้ไม้เป็นสลักยึดแทน การใช้ตะปู ซึ่งหายากในสมัยนั้น แต่มีสิทธิที่คนที่จะมองเห็นคุณค่า และความหมายที่ซ่อนเร้นในความหลากหลายของสถานปัตยกรรม อันผสมผสานอย่างสวยงามของมัสยิดหลังนี้
มัสยิดหลังนี้ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ บริเวณเชิงเขาบูโด อ. บาเจาะ จ.นราธิวาส หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า มัสยิดวาดีลามาห์ ผู้สอนศาสนาในยุคนั้น ตามประวัติความเป็นมาของมัสยิดหลังนี้ สร้างในยุคเดียวกันกับมัสยิดกรือแซะ
ความสวยของมัสยิด 300 ปี มีความงดงามที่ปรากฎเห็นชัด คือ หลังคามัสยิดที่ตั้งบนฐานซึ่งเสมือนพานรองรับ และดูเหมือนดอกบัว มีห่อเหลี่ยมหลังคาแบบเก๋งจีนให้เป็นหออาซาน แจ้งเตือนเวลาละหมาด หลังคาปันหยา เป็นสถานปัตยกรรมที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ ของมลายู ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ความแตกต่างอันหลากหลายเหล่านี้ เหมือนเป็นประจักษ์พยานที่เกิดขึ้นเพื่อจะบอกให้คนรุ่นหลานได้เข้าใจและรับรู้ว่า ทุกความแตกต่างก็อยู่ร่วมกันได้และสามารถสร้างสรรค์ให้เป็นสิ่งสวยงามได้อย่างน่าชื่นชม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น